* ออกแบบบ้านให้คล้ายเรือนทรงไทยหรืออุโบสถวัดที่มีเพดานสูง มีช่องระบายอากาศใต้หลังคา ติดตั้งหน้าต่างแบบเปิดรับลมได้ในปริมาณที่เพียงพอ และถ้าเป็นไปได้ควรมีช่องระบายอากาศระหว่างผนังภายในบ้าน เพื่อที่อากาศจะได้ถ่ายเทสะดวก ช่วยให้บ้านเย็นขึ้น

* ทาผนังบ้านด้วยสีโทนอ่อน ทั้งด้านนอกและด้านใน เพราะห้องจะดูกว้าง โปร่ง โล่ง อยู่แล้วรู้สึกสบาย ที่สำคัญคือช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้าน เพราะสีโทนอ่อนไม่ดูดความร้อนเหมือนสีเข้มหรือสีทึบๆ

* ติดกันสาดบริเวณห้องที่ใช้เวลาอยู่นานๆ หรือห้องที่ทำงานเป็นประจำ กันสาดช่วยป้องกันฝน และช่วยลดแสงที่ส่องเข้ามาในห้องมากเกินไป เมื่อติดกันสาดแล้วสามารถเปิดม่านหรือเปิดหน้าต่างรับแสงที่พอเหมาะแก่สายตา ลดการเปิดไฟ และเพิ่มความเย็นสบายให้ห้องได้โดยไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศ

* ติดซี่ระแนงไม้ บล็อคแก้ว หรือกระเบื้องหลังคาแบบโปร่งแสงเพื่อเปิดให้แสงส่องเข้าบ้านได้มากขึ้น ลดการเปิดไฟในบ้านในช่วงเวลากลางวัน

* ปลูกต้นไม้หรือพยายามให้มีพื้นที่สวนสีเขียวๆ ภายในบ้าน เพราะต้นไม้ช่วยเพิ่มความร่มรื่นและอากาศบริสุทธิ์ แถมยังมีร่มเงาที่ช่วยลดความร้อนได้เป็นอย่างดี

* เลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าแบบประหยัดพลังงาน หรือเลือกเครื่องใช้ที่มีเครื่องหมายประหยัดไฟเบอร์ 5 และไม่ควรใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่เก่าหรือเสื่อมสภาพแล้ว เพราะสิ่งเหล่านี้กินไฟ ประสิทธิภาพการทำงานไม่ดี และอาจทำให้เกิดปัญหาไฟฟ้าลัดวงจรด้วย* อุดรอยต่อประตูและหน้าต่าง รวมถึงรอยรั่วจุดอื่นๆ ภายในบ้าน เพื่อลดการกระจายอากาศจากเครื่องปรับอากาศผ่านช่องว่างต่างๆ ซึ่งเป็นที่มาของการใช้ไฟเกินความจำเป็น

* ติดตั้งฉนวนกันความร้อนบริเวณหลังคา เพดาน และผนังบ้าน รวมทั้งติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อเพิ่มที่มาของพลังงานที่ใช้ได้แบบฟรีๆ แม้การติดตั้งอุปกรณ์เหล่านี้มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง แต่ก็ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะช่วยให้คุณประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาว